
ภาพจาก BADRU KATUMBA / AFP
เป็นเวลานานหลายเดือน นับตั้งแต่บ่อขยะกีตีซี ซึ่งเป็นบ่อขยะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรองรับขยะจากเมืองหลวงมากที่สุด เกิดเหตุภูเขาขยะถล่มลงมาทับผู้คนหลายสิบชีวิต หลังเกิดฝนตกหนัก โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็คือ ซานย่า เคเซีย เพื่อนรักของปรินซ์
ปรินซ์ ได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ ตอนที่รถแทร็กเตอร์ของทางการเข้ามาขุดพบศพของเคเซีย วัย 21 ปี เขายอมรับว่ามันเป็นภาพน่าสยดสยองมาก เมื่อได้เห็นร่างของเพื่อนที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยขยะเน่าเหม็น และใบหน้าของเพื่อนก็ปรากฏบาดแผลได้รับบาดเจ็บ
"พวกเราไม่ปลอดภัยที่นี่ เว้นแต่พวกเขาจะซ่อมแซมหรือปรับระดับพื้นที่ มิเช่นนั้นผู้คนก็ไม่ปลอดภัย" ปรินซ์ กล่าว
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่พยายามหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บของมีค่าจากกองขยะ เพื่อนำมาล้างและขาย ไม่ว่าจะเป็นอวนตกปลา ขวดพลาสติก โหลแก้ว และชิ้นส่วนของเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์เก่า แต่เมื่อเกิดเหตุภูเขาขยะถล่ม ไม่เพียงแค่กว่า 30 ชีวิตที่ถูกขยะทับจนเสียชีวิตทั้งเป็น แม้แต่บ้านเรือนของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ยังถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย บางคนต้องย้ายออกจากพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งสภาเมืองกัมปาลาและรัฐบาลกลางต่างก็โยนความผิดกัน และกล่าวหากันว่าละเลยหน้าที่ ขณะที่ผู้เสียชีวิตหลายศพยังจมอยู่ใต้กองขยะหนักนับตัน โดยไม่ได้รับการฝังร่างอย่างสมศักดิ์ศรี
สำหรับ ปรินซ์ เขาเคยเป็นนักศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนจะผันตัวมาเป็นคนเก็บขยะ หลังทางครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงินจนไม่มีเงินส่งเสียค่าเทอมอีกต่อไป เขาต้องแบกรับความเสี่ยงและทิ้งความฝันเพื่อมาหาเลี้ยงชีพที่บ่อขยะแห่งนี้ โดยเขาต้องมาอยู่ที่บ่อขยะทั้งแต่เช้า คอยเก็บถุงโพลีเอทิลีนไปล้างและขาย ทำเงินได้ประมาณวันละ 10,000 ชิลลิง (ราว 2.7 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 91 บาท)
การที่บ่อขยะถล่มยิ่งทำให้เขาประสบปัญหาด้านการเงินหนักขึ้น เนื่องจากเดิมเขาเคยอาศัยอยู่ข้างบ่อขยะ แต่ต้องย้ายออกด้วยความกังวลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ แม้ทางการจะมีการจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้จ่ายให้แก่ประชาชนกว่า 200 ชีวิต ที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยไป โดยอยู่ระหว่างรอการประเมินมูลค่าและการจัดสรรงบประมาณ
"พวกเขาสัญญาว่าจะให้ค่าชดเชยกับเรา แต่ผมยังไม่ได้รับอะไรเลย แทบทุกคนก็บ่นเช่นกัน" ปรินซ์ บอกกับบีบีซี และเสริมอีกว่า "เราสูญเสียเพื่อนไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้คือความเศร้าโศก"
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC