เปิดเส้นทางช่วย เด็ก 14 ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลฯ ถูกขู่ขายค้าประเวณีถ้าคิดหนี

             ล่าสุด (26 กุมภาพันธ์) ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า เธอเป็นหนึ่งในทีมที่เดินทางมารอรับตัวน้องมุกที่ชายแดนปอยเปต หลังคาดว่าถูกหลอกไปขายแรงงานให้กลุ่มธุรกิจสีเทาที่ปอยเปต ซึ่งเบื้องต้นทาง ตม. ได้เดินทางข้ามไปกัมพูชา ประสานกับตำรวจกัมพูชาเพื่อสกัดรับตัวน้องที่ จ.พระตะบอง ของกัมพูชา


             กระทั่งเวลา 20.00 น. ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง แจ้งข่าวดี ได้ตัวน้องมุกแล้ว โดยเจ้าหน้าที่นำรถเข้าไปรับตัวน้องมุกจากชายแดนปอยเปต กลับสู่อ้อมกอดพ่อและแม่อย่างปลอดภัย พร้อมเล่าว่า เคสนี้เป็นเคสที่ยากมากเนื่องจากตัวเหยื่ออยู่นอกอาณาเขตประเทศไทย จึงยากต่อการสื่อสารและประสานงาน แต่ต้องชื่นชมน้องว่าน้องมีสติมาก ที่หาทางติดต่อและรายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลาที่อยู่บนรถระหว่างถูกนำตัวมาส่งที่ปอยเปต

             น้องเล่าว่า ตอนแรกน้องเข้าใจว่าแค่มาทำงานที่ จ.สระแก้ว ไม่คิดว่าจะถูกพาตัวมาข้ามแดน กว่าจะรู้ตัวก็กลับตัวไม่ได้แล้ว งานที่น้องทำมีลักษณะคล้ายคอลเซ็นเตอร์ ช่วงเช้าต้องหลอกคนให้ได้ 10 คน ถ้าทำไม่ได้จะไม่ได้กินข้าวและถูกซ้อม เมื่อเช้านี้เพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคนไทยที่ทำงานในที่เดียวกันกับน้องก็เพิ่งถูกซ้อมและทำร้ายร่างกายไป

             ก่อนหน้าที่แก๊งดังกล่าวจะนำตัวน้องมาส่งที่ปอยเปต น้องกำลังจะถูกส่งตัวข้ามแดนไปที่เวียดนาม แต่ทางต้นสังกัดที่หลอกน้องไปทำงาน อ้างว่าน้องไปไม่ได้ เอกสารไม่ผ่าน จึงจะนำตัวน้องกลับมาส่งที่ปอยเปต คาดว่าจะนำมาค้าแรงงานให้อีกกลุ่มหนึ่งในปอยเปต

             ต้องยอมรับว่าเคสนี้เหมือนปาฏิหาริย์เพราะเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ด้วยอายุน้องและการติดต่อข้ามประเทศนั้นค่อนข้างลำบากแต่ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น


             - กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3
             - ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว
             - กรมทหารพรานที่ 12 กองร้อยทหารพรานที่ 1201
             - สืบสวน สภ.คลองลึก และผู้กำกับ สภ.คลองลึก
             - พมจ.สระแก้ว
             - บ้านพักเด็ก จ.สระแก้ว
             - สืบสวน สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง
             - คุณเบิร์ด ผู้ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน
             - พี่ต้อย มูลนิธิวินวิน
             - เพจ Social Hunter ที่ส่งต่อเรื่องราวให้เราเข้าช่วยเหลือ


             ที่ประสานงานช่วยเหลือและบูรณาการร่วมกันจนนำตัวน้องกลับมาอยู่ในอ้อมกอดแม่และพ่ออย่างปลอดภัย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลเพื่อจับกุมผู้มีส่วนร่วมในกระบวนการในครั้งนี้เพื่อปราบปรามแก๊งจีนเทา ไทยเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุกมิติที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยให้สูญสิ้น

             ขอให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนที่กำลังมีความคิดอยากจะทำงานในลักษณะนี้ มันไม่ได้สวยหรูอย่างภาพที่คุณวาดฝันไว้ มันมีแต่ความรุนแรงความสิ้นหวังและการกดขี่ ควรมีสติในการใช้ชีวิตและตัดสินใจทำอะไรในชีวิต เพราะคุณอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนน้องมุกก็เป็นได้

เส้นทางช่วยเหลือ ไม่ง่ายกว่าจะเจอตัว หวิดขาดการติดต่อ

             ขณะที่ นายดลชนก บุณโยทยาน รองประธานมูลนิธิวินวิน โพสต์เล่าถึงภารกิจช่วยน้องมุกว่า เคสนี้จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย น้องมุกเจอคนรับสมัครทำงานในปอยเปต ในเฟซบุ๊กของคนร้ายให้น้องแอดไอจี ชวนมาทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน น้องถูกส่งตัวไปถึงชายแดนเวียดนามแล้ว แต่น้องอายุไม่ถึงจึงถูกส่งกลับมาปอยเปต แต่น้องไม่ทราบเลยว่าถูกขายต่อหรือส่งจะกลับ พวกมันขู่น้องจะนำไปขายให้ค้าประเวณีถ้าคิดหนี

             ในระหว่างนั่งรถถึงพนมเปญ น้องได้ขอแชร์เน็ตกับคนขับรถและขอความช่วยเหลือมา จึงให้น้องแชร์โลเคชันในแชตเฟซบุ๊ก เพราะมันแชร์ได้ครั้งละ 1 ชั่วโมง หมดอายุก็ให้แชร์ใหม่ จึงยังพอเห็นเส้นทางที่น้องเดินทาง


             ประสานสืบสวนคลองลึก ได้คุยกับคนขับรถให้จุดมาส่งน้องที่ปอยเปต แต่คนขับดันกลัวเปลี่ยนให้รถรับจ้างอีกคันมาส่ง เมื่อน้องไม่มีเน็ตแล้วก็ต้องเดาต่อ พอดีกับตำรวจกัมพูชาทราบเรื่องจึงค้นหาน้องอีกที่จนพบตัว นำน้องมาส่งชายแดนอย่างปลอดภัย