ช่วยหนุ่ม 20 โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกยาว 7 วัน ให้โกหกพ่อแม่ว่าถูกจับ สูญเงิน 5 แสน

          ตำรวจช่วยหนุ่มวัย 20 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขู่ให้เปิดโรงแรมหลอกพ่อแม่ว่าโดนจับ บังคับต่อสาย 7 วันติด พ่อแม่ผวาหวั่นถูกส่งข้ามไปชายแดน

         วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจเข้าช่วยเหลือ นักศึกษาชาย ปี 1 อายุ 20 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจ สภ.แม่โจ้ โทร. ข่มขู่ว่ามีคดีฟอกเงินตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ด้วยความหวาดกลัวจึงขอเงินพ่อแม่ถูกบังคับให้วิดีโอคอลไม่ยอมให้ติดต่อใคร 7 วัน 7 คืน ล่าสุดโทร. ค้างอยู่นานถึง 17 ชั่วโมง สูญเงินกว่า 5 แสนบาท

         กรณีนี้สืบเนื่องจากพ่อแม่ของนักศึกษาชาย เอะใจที่ลูกชายโทร. มาขอความช่วยเหลือให้โอนเงินไปให้ อ้างว่าได้ทุนเรียนฟรีไปต่างประเทศ แต่ไม่ได้แจ้งว่าโดนข่มขู่อย่างไรบ้าง โดยพ่อพยายามเตือนว่ามันไม่มีลักษณะแบบนี้ อาจจะเป็นการหลอกลวง แต่ด้วยความรักลูกชายจึงโอนเงินให้ไปหลายครั้ง ก่อนที่พ่อกับแม่จะเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง 


พ่อแม่เตือนแล้วว่าอาจถูกหลอก สุดทนแจ้ง ตร. หลังเจอมิจฉาชีพขู่จะส่งลูกไปชายแดน

         ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ปกครองของหนุ่มเดินทางจาก จ.ขอนแก่น มาแจ้งความกับตำรวจ สน.วังทองหลาง ระบุว่าน้องถูกมิจฉาชีพหลอกลวงและไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ จึงสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายออกอุบายบังคับให้น้องไปเปิดห้องพักโรงแรมแล้วพูดจาหลอกลวงให้น้องโทร. ไปผู้ปกครองเพื่อให้โอนเงินมาไถ่ตัว แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้ก่อนที่จะโอนเงินไปให้อีกครั้ง โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นตำรวจโทรมาหลอกเมื่อวันที่ 12  กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อ้างว่ามีชื่อเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและแก๊งคอลเซ็นเตอร์


         เมื่อผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงหลอกว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ พอผู้เสียหายบอกว่าไม่สามารถเดินทางไปได้จึงถูกข่มขู่จนเกิดความกลัว แล้วหลอกให้โอนเงินที่มีอยู่ในบัญชี เพื่อยืนยันตัวตน 3 ครั้งรวมเป็นจำนวน 150,000 บาท จากนั้นยังติดต่อข่มขู่ติดต่อกันตลอด 7 วันแต่ละวันจะใช้เวลาพูดคุยนาน 10 กว่าชั่วโมงใช้คำพูดข่มขู่ตลอดเวลาให้ผู้เสียหายโอนเงินไปอีกเป็นเงินค้ำประกัน โดย ให้โทร. ไปหลอกเอาเงินจากพ่อแม่ว่าได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก พ่อหลงเชื่อโอนเงินมาให้อีกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 520,000 บาท


         จากนั้นผู้ปกครองเกิดความสงสัยพฤติกรรมของลูกชายจึงเดินทางมาที่กรุงเทพฯ และพายามติดต่อลูกแต่ไม่สามารถติดต่อได้ สุดท้ายตัดสินใจเข้าแจ้งความ ขณะที่ลูกชายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ให้ไปเปิดห้องพักซอยลาดพร้าว 128 เพื่อให้สร้างสถานการณ์ว่าถูกลักพาตัว บังคับให้ถ่ายคลิป หลอกว่าจะถูกทำร้ายจากการติดหนี้พนัน แล้วนำคลิปส่งไปให้ผู้ปกครองเพื่อเอาเงินอีก 150,000 บาท ขู่ว่าหากไม่โอนเงินจะพาลูกชายไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน

ตำรวจจริงบุกช่วย แต่หนุ่มยังไม่รู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอก เผยสาเหตุที่หลงเชื่อ

         อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สามารถเข้าช่วยเหลือไว้ได้ก่อนมีการโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพบว่า เมื่อหนุ่มวัย 20 ปี เจอกับตำรวจที่เข้ามาช่วยเหลือก็มีท่าทีตกใจ พร้อมกับถามว่า พี่เป็นตำรวจจริงเหรอ ตำรวจยืนยันว่าจริง พ่อแม่ของน้องอยู่กับตำรวจที่โรงพัก ส่วนที่น้องคุยนั้นเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหนุ่มนักศึกษาก็รู้สึกตกใจเมื่อได้รู้ความจริง

         ต่อมาสอบถาม นักศึกษาหนุ่ม เผยว่า ตอนแรกมีเจ้าหน้าที่อ้างว่ามาจากบริษัทค่ายมือถือติดต่อมา ก่อนจะได้พูดคุยกับตำรวจ ที่หลงเชื่อเพราะอีกฝ่ายมีข้อมูลของตนเองหมดเลย ทั้งชื่อ นามสกุล เลขบัตร และบัญชีธนาคาร ส่วนสาเหตุที่ไปเปิดโรงแรม เพราะถูกหลอกว่าให้ทำ ไม่งั้นจะเสียรูปคดี

         ด้านพ่อแม่ของนักศึกษา เผยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการแอดไลน์แล้วส่งภาพรถจักรยานยนต์ล้มมาข่มขู่ ทำนองว่าลูกถูกทำร้ายจับตัวไปเพราะติดหนี้พนัน โดยเตรียมจะส่งข้ามไปชายแดน จึงรู้สึกตกใจและรีบเข้ากรุงเทพฯ มาแจ้งความ

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้